ไหนใครที่ชอบถามว่า บ้าดาราไปแล้วมีประโยชน์อะไร มาค่ะ วันนี้จะตอบให้ ตามแบบฉบับของเราเอง (ใครไม่อินฉันอิน ฮา)
รู้ใช่ไหมว่า One More Try Diary นั้น เรามีไว้เขียนเล่าเรื่องวิถีชีวิตการไดเอทฉบับคนขี้เกียจ(แบบสุด ๆ) ของตัวเอง อยากจะย้อนความให้ฟังหน่อยว่า จุดเริ่มต้นของวิถีไดเอทของเรานั้น เริ่มมาจากการติ่งจ้านเกอ (โอเค รู้ว่าแก่กว่า แต่ก็อยากเรียกน้องว่า จ้านเกอตามเด็กน้อยปี 97 อะค่ะ ยอม ๆ เราเถิด 555+) อย่างง มันเริ่มมาจากการ "ติ่ง" จริง ๆ แกร~
แล้วไงล่ะ ก็เมนตัวเองชอบสัมว่า สเปกไม่ตายตัว ผู้หญิงจะผอมหรืออวบก็ได้ แต่ผู้หญิงอวบของเขาคือหนัก 50 kg. ไงเว้ย! ได้ยินแบบนั้น เมียมโนสายแดรกเยี่ยงข้าพเจ้ามันก็ต้องมีสะเทือนพุงกันบ้างล่ะ ดูรูปจ้านทุกวัน ฟังสัมประจำ มันก้ต้องมีถูกสะกดจิตกันบ้างล่ะ จากนั้นก็ฮึบ ๆ มาค่ะ! เรามาไดเอทกันเถอะ เย้~
อะ เล่าที่มาจบแล้ว มาต่อกันที่สาระ(มั้ง) กันดีกว่า หลังจากใช้ระยะเวลาฟูมฟัก อดทน ไม่เอนอ่อนต่อสิ่งเร้า...เอ่อ อันนี้เราตอแหล บางทีเราก็มีหลุด ๆ บ้าง แต่ก็พยายามให้หลุดน้อยที่สุดอะนะ TAT ตอนนี้สิ่งที่ปรากฎตรงหน้าข้าพเจ้ามันเริ่มมองเห็นคำว่า "คุ้มค่าแก่ความพยายาม" แล้วน้าาา #กรีดร้องด้วยความดีใจ
งั้นมาดูกันว่า ช่วงที่ผ่านมา ทำอะไรไปบ้าง...
ก็ไม่ได้ทำอะไรเท่าไรเลยแหละจริง ๆ อะ เราแค่เลิกกินขนมกรอบ ๆ แบบเกือบถาวรไป คืออย่างที่บอกอะ มันยังมีสติหลุดไปบ้าง แต่ก็แบบนาน ๆ ทีไรงี้อะ ไอติม เค้ก หรือพวกขนมหวาน ๆ ก็แทบไม่ได้แตะเลย เมนูของทอดยังลดไม่ค่อยได้ เพราะบุพการียังไม่ยอมเข้าใจเรา ประเคนมาให้บ่อย ๆ (เออ โทษที่บ้านไว้ก่อนนี่แหละ นิสัยเสียจริงตรู ถถถถ) ส่วนเครื่องดื่ม เดี๋ยวนี้กินอยู่หลัก ๆ ก็ชาเขียวจ้านเกอ (หลงจิ่ง) กับ อเมริกาโน่เย็นจาก 7-11 หรือ ลาเต้หวานน้อย จากร้านกาแฟแถวออฟฟิศ (บางทีก็สั่งแบบไม่เอาหวาน) ก็กินวน ๆ มันอยู่แค่นี้อะ (ก็มีหลุด ๆ บ้างอีกแหละ แหะ ๆ ๆ)
(ตัวอย่างของเมนูที่ยัดห่านลงกระเพาะในรอบ เนี่ย...บทจะหลุด คือหลุดโลกไปเลยจ้า โฮ~ TOT)
แต่น่าแปลกดี ตั้งแต่ที่เราหันมาจัด อเมริกาโน่ แล้ว เราก็มีความรู้สึกว่า กาแฟลาเต้ หรือ คาปูชิโน่ ที่เมือ่ก่อนกินได้ตามปกติมันหวานเกินไปซะงั้น กลายเป็นว่าเดี๋ยวนี้ถ้าจะสั่ง 2 เมนูที่ว่าจะต้องมีเติมต่อท้ายว่าเอาแบบ ไม่หวาน เสมอ โอ้ว้าววว ดูท่าว่าเราจะชินกับรสกาแฟขม ๆ ไปซะแล้วสิ
(ลาเต้หวานน้อย กับ อเมริกาโน่ แบบไม่หวานเลย 2 เมนูประจำในชีวิตช่วงนี้ฮะ)
ส่วนเรื่องของการออกกำลังกายนั้น ยังไม่ค่อยได้ทำอะไรมากนัก ส่วนใหญ่ก็จะเน้น "เดิน" เป็นหลัก เดินในหมู่บ้านบ้าง เดินในโซนสวนที่เมกะบางนาบ้าง(ข้อดีของการมีบ้านอยุ่ติดห้างก็งี้อะค่ะทุกคน แฮ่~) หรือบางทีพี่ชายก็มาชวนไปวิ่งตอนเช้ามืดที่สวนหลวงร.9 บ้าง คร่าว ๆ ก็ประมาณนั้นเลย
ทีนี้เว้ย สภาพหุ่นตอนนี้ก็คือ น้ำหนักลงไปเหลือ 59 kg. พุงหายไปราว ๆ 50-60 % สะโพกลดลงไปราว 1-2 นิ้ว เอวเริ่มเห็นชัดกว่าตอนก่อนหน้านี้ (อันนี้ไม่ได้วัด เพราะมัวแต่ดีใจกะก้นที่เล้กลงนิดนึง กร๊ากกก) แล้วที่ปลื้มปริ่มฝุด ๆ เลย เห็นจะเป็นว่า กระโปรงเดรสที่เคยโบกมือลาไปพักใหญ่มาก ๆ หลายตัว เพราะอ้วนไปใส่ไม่ได้ ล่าสุดอีชั้นกลับมาใส่มันได้ละน้าทุกคนนน #ลุกขึ้นเต้นด้วยความดีใจ ก็คือยังลดไปได้ไม่มาก แต่ก็ลดลงแล้วอะ แค่นี้ก็รู้สึกมีแรงใจจะสู้ต่อแล้ว >__<
(ชุดซ้ายคือใส่ไม่ได้มานานละ เพิ่งกลับมาใส่ได้ ส่วนชุดขวาใส่ได้แต่ปกติจะตึงเอวกะก้นมากๆ แบบฟิตสุดไรสุดอะ ถอดยากเพราะติดทุกส่วน ตอนนี้คือใส่สบายละจ้า แฮ๊ปปี้มว๊ากกก)
เลเวลต่อไป ก็อยากจะโฟกัสที่ต้นแขนกับต้นขาให้มากกว่านี้หน่อย เพราะตอนนี้ทั้ง 2 ส่วนที่ว่ายังดูไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เลยคิดว่าอยากลองยกขวดน้ำดู (อ่านเจอมาในเน็ต หรือใครมีวิธีดี ๆ แนะนำกันบ้างเน้อ
แล้วก็นี่แหละค่ะ ผลลัพธ์จากการติ่งผู้ชายที่ไม่ไร้สาระของข้าพเจ้า ฮ่า ๆ ๆ
สุดท้ายแล้วก็อยากจะพยายามต่อไป อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าพยายามต่อไปเรื่อย ๆ ผลมันจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน จะได้ผอมสมใจมั้ย หรือจะยอมแพ้ เด้งกลับมาอ้วนอีก ตอนนี้บอกอะไรไม่ได้เลยจริง ๆ สิ่งที่รู้ตอนนี้ก็คือ ทุกวันนี้อีชั้นทะเลาะตบตีกับตัวเองทุกวันเลยจ้า เพื่อที่จะไม่ให้ตบะแตกไปซื้ออะไรมาประเคนกระเพาะตัวเอง ก็แหม~ ตอนเลิกงานเราลงบีทีเอสที่อุดมสุขไง แหล่งอาหารการกินเลยนั่น เดินผ่านร้านของกินทุกวัน เหมือนได้ยินเสียงปลาหมึกย่างเอย ขนมเซเว่นเอง ลูกชิ้นทอดเอย ไก่ทอดเอย ส่งเสียงเรียกแขกทุกวี่วัน โว๊ยยย พวกแกใจเย็นหน่อย อย่ายั่วเยอะ ตังค์ไม่มีซื้อ เปย์ผู้ชายหมดแล้ว!! (สรุปชนะความอยากได้ด้วยเงินในกระเป๋าถูกมะ?)
ปล. หลัง ๆ มานี้ เวลาบ่น ๆ ให้แม่ฟังว่า อยากกินนั่นนี่ไปหมดทุกอย่างเลยทำไงดี แม่จะตอบกลับมาสั้น ๆ ประโยคเดียวตลอดเลยว่า... "เปิดรูปจ้านดูซะ"
แบบ...แม่!!
หวีดร้องโวยวาย แต่ก็ทำตาม แล้วจิตใจก็สงบลง ท่องไว้ ฉันจะผอมเพื่อจ้าน(โว๊ยยย) ฮือออ นี่มันลัทธิบูชาจ้านเกอชัด ๆ
อะ แปะมีมหลอกตัวเองต่อไป ถถถถ
แม้เขาจะไม่รับรู้ แต่ฉันรับรู้ก็พอ แฮ่~!! >__<
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น