วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ขอบคุณ 'ความอิจฉา'



เคยรู้สึก 'อิจฉา' คนอื่นบ้างไหม?
ไม่ต้องอายๆ เราก็เคย
ตลอดชีวิตที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้
ความขี้อิจฉาของเรามีเยอะมากกก(ก.ไก่ล้านตัว)


อิจฉาคนที่เกิดมาสวย น่ารัก
อิจฉาคนที่เรียนเก่ง
อิจฉาคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต
อิจฉาคนที่มีแฟน
อิจฉาคนรวย
บลาๆๆ

ใช่ค่ะ...เราเคยเป็นคนขี้อิจฉา
อิจฉาจนตัวเองรู้สึกนอยส์...
นอยส์จนมันคิดได้ด้วยตัวเองว่า

จะอิจฉาไปทำไม

แต่ละคนมีดีไม่เท่ากัน
เขามีดีตรงนั้น เราไม่มี
แต่ส่วนที่เรามีดีตรงนี้ ก็ใช่ว่าเขาจะมี
มองโลกให้เป็น ใจจะเป็นสุข
อิจฉาไปแต่ไม่พยายาม เกิดประโยชน์ไหม? ก็ไม่...
เราทุกคนรู้ทางแก้ไขเรื่องความขี้อิจฉาอันนี้ดีค่ะ
เพียงแต่จะแก้ไขหรือไม่นั้น มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

การอิจฉาไม่ใช่เรื่องเลวร้าย
หากแต่ต้องรู้จัก 'อิจฉา' ให้เป็น
เอาความอิจฉาที่มีมาเป็นแรงฮึด
หาใช่เอามาใช้เพื่อหาทางขัดขวางคนอื่น จนลืมไปว่า
คนเราทุกคนมีต้นทุนชีวิตไม่เท่ากัน
ต้นทุนเหล่านั้น หากไม่ต่อทุน
มีหรือที่มันจะอยู่ยืนยง

คนที่มีทุนเยอะ ยิ่งต่อทุนยิ่งได้เยอะ
ส่วนคนที่มีทุนน้อย ก็หมั่นต่อทุนให้หนักขึ้น
ต่อๆ ไปก็จะมีต้นทุนชีวิตที่สูงขึ้น
และสบายขึ้นตามไปด้วย

หลายครั้งที่เราเห็นคนบ่นตัดพ้อว่า
เหนื่อย ท้อ หมดกำลังใจ อยากตาย
เพื่อประชดโลกที่ไร้ความยุติธรรมนี้
เราอยากเดินเข้าไปตบบ่าเขาเบาๆ และบอกว่า
เก็บความรู้สึกที่อยากตายนี้ไว้
และลองฮึดสู้อีกครั้งให้เต็มที่
แล้วทุกอย่างจะต้องดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่แน่

เมื่อถึงตอนนั้นคุณจะดีใจที่ยังมีชีวิตอยู่
และแม้ว่าการพยายามนั้นไม่ประสบความสำเร็จ
ก็ไม่ต้องเสียใจไป
เพราะคนเรานั้น หากชีวิตยังมี แรงใจก็พร้อมเข้ามาเสมอ
ล้มได้ก็ลุกได้ จำไว้

และสุดท้ายนี้ เราอยากบอกว่า
จงอย่าเกลียดชัง 'ความอิจฉา' ที่มีในใจ
แต่ก็อย่าเลือกใช้มันเพื่อทำร้ายคนอื่นเช่นกัน

เพราะความอิจฉานั้น
หลายครั้งแล้วที่มันทำให้
คนเราดั้นด้นจนประสบความสำเร็จ
และมีความสุขได้จนถึงทุกวันนี้

ขอบคุณ 'ความอิจฉา'
ที่ทำให้เรากล้าเผชิญหน้า
และดิ้นรนจนไล่ตามความฝันตัวเองได้สำเร็จ
อีกหนึ่งครั้ง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น