วันอังคารที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2560

เรื่องราวจากบทเพลง...ตอนยังไงก็ไม่ยัก


เคยมีคำกล่าวที่ว่า 'ผู้ชายไม่เป็นเพื่อนกับผู้หญิง' เมื่อก่อนฉันคิดว่ามันเป็นคำพูดไร้สาระ และไม่มีทางจะเป็นเรื่องจริงไปได้ จนกระทั่งได้มาประสบพบเจอเข้ากับตัวเอง ตั้งแต่วันที่เขาคนนั้นก้าวเข้ามาในชีวิตของฉัน...

'จอร์น' เป็นเพื่อนร่วมห้องคนใหม่ในคลาสเรียนภาษาญี่ปุ่นที่ฉันเรียนอยู่ เขาเป็นผู้ชายรูปร่างผอมสูง ผิวสองสี ดวงตาสีเทาอ่อน ผมหยักศก และสวมแว่นตากรอบเหลี่ยมเล็กๆ ตลอดเวลา จอร์นเป็นลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส เขาอายุพอๆ กับฉันซึ่งเด็กที่สุดในคลาสนั้น ด้วยความที่เราสองคนชื่นชอบการอ่านหนังสือและการฟังเพลงเหมือนกัน พวกเราสนิทกันได้ในเวลาไม่นาน

แต่แล้ว ความสนิทเหล่านั้นกลับเริ่มพ่นพิษใส่ฉัน คนที่เพิ่งรู้ตัวว่า แท้จริงแล้ว ฉันชอบเขาอยู่ไม่น้อยเลย เรื่องราวความเจ็บช้ำในใจของฉันมันเริ่มต้นจากวันนั้น วันที่มีเด็กสาวคนใหม่เข้ามาในคลาส...   


ทำไมต้องทำเป็นสนใจทำไมต้องทำมีเยื่อใย รู้ไหมว่าฉันคิดไปไกล
ในตอนเช้าจอร์นเดินเข้ามาหาฉันพร้อมช่วยถือกระเป๋าให้อย่างเคย ระหว่างที่พวกเรากำลังคุยเล่นกันอยู่นั้น ได้มีหญิงสาวอีกคนเดินเข้ามาทัก พร้อมถามหาทางไปห้องเรียนภาษาญี่ปุ่นสำหรับคนเริ่มต้น ซึ่งนั่นคือคลาสของฉัน ทันทีที่จอร์นเห็นเธอ เขาก็ร้องอุทานออกมาเสียงดังด้วยความดีใจ ก่อนจะเริ่มพูดคุยกับเธอคนนั้นอย่างออกรสชาติโดยลืมฉันที่กำลังยืนอยู่ข้างเขาไปเลย

สักพักเขาคงเริ่มนึกได้ จึงหันมาแนะนำฉันให้กับสาวปริศนาคนนั้น พร้อมบอกว่า สาวคนนั้นคือเพื่อนตั้งแต่สมัยเด็กของเขา เธอชื่อเจสซี่ ซึ่งหลังจากแนะนำตัวกันเสร็จ จอร์นก็หันไปสนใจเจสซี่ต่อ ปล่อยให้ฉันยืนอยู่ข้างตัวประหนึ่งว่าเป็นเพียงธาตุอากาศเท่านั้น...

ฉันรู้สึกได้ในทันทีว่า เวลาแห่งความสุขของฉันมันกำลังจะหมดลงไปแล้ว 


ทำไมต้องทำเป็นเหมือนแคร์ ทำไมต้องทำมาเหลียวแลมันแปลว่าอะไร
สิ่งที่สังหรณ์ไว้ไม่มีผิดเลย ตั้งแต่วันนั้นเจสซี่ก็มักไปไหนมาไหนพร้อมกับพวกเรา และจอร์นเริ่มหันไปเอาใจใส่เธอมากกว่าฉัน แม้เขาจะยังคงคอยไปรับไปส่งฉันเหมือนเก่า แต่ฉันกลับรู้สึกได้เลยว่า มีอะไรบางอย่างไม่เหมือนเดิม

ฉันลองเฟตตัวเองให้ออกห่างจากพวกเขาดูด้วยการไปกินข้าวกับเพื่อนรุ่นพี่คนอื่นในคลาสซึ่งส่วนใหญ่คนในคลาสนี้จะเป็นผู้ชายและเก้งกวาง ผลปรากฏว่าจอร์นโกรธฉัน...เขาไม่พอใจที่ฉันไปกินข้าวกับผู้ชายคนอื่น เขาขอฉันว่า ถ้าจะไป ให้ชวนเขาไปด้วย อย่างน้อยมีคนคอยดูแลจะได้อุ่นใจ

ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันคงดีใจมาก แต่ไม่รู้ทำไม ตอนนี้ฉันกลับไม่อยากได้ยินคำพูดเหล่านี้เลย...


เธอมาทำให้ใจอ่อนแอ หลอกฉันให้สู้ทั้งที่ต้องแพ้เขาอยู่ดี
ฉันรู้สึกว่าตัวเองคงบ้ามาก ที่ยอมฟังคำขอนี้ของจอร์น เพราะนั่นทำให้ฉันต้องทนมองภาพอันแสนเจ็บปวดตรงหน้าอยู่ตลอด ยิ่งนานวันเข้าเจสซี่ก็ทำตัวเหมือนเธอเป็นเจ้าเข้าเจ้าของจอร์นโดยที่เขาเองก็ไม่ได้มีทีท่าจะปฏิเสธแต่อย่างใด...

และไม่รู้ว่าฉันดูซึมไปมากหรืออย่างไร ทำให้วันหนึ่งขณะที่เรามีโอกาสได้อยู่กันตามลำพังเพราะเจสซี่ไปทำธุระกับที่บ้าน จอร์นจึงเอ่ยปากถามฉันขึ้นมาว่า ฉันกำลังมีความทุกข์เรื่องอะไรอยู่หรือเปล่า?

ตอนแรกฉันบ่ายเบี่ยง แต่เมื่อถูกถามมากๆ เข้า ฉันจึงเผลอหลุดปากพูดออกไปว่ากำลังมีปัญหาเรื่องหัวใจ ที่ดันไปรักคนที่เขารักคนอื่นอยู่ ได้ยินดังนั้นเขาก็เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยปากบอกให้ฉันสู้ๆ ฉันอยากถามเขากลับเสียเหลือเกินว่า...

จะให้ฉันสู้ยังไง ในเมื่อสู้ไปก็แพ้อยู่ดี


ยังไงเธอก็ไม่รักยังไงเธอก็ไม่สน และมันไม่มีเหตุผลเมื่อเขานั้นก็ดีกว่า ได้โปรดอย่าให้ความหวัง ถ้าเธอยังเห็นคุณค่า หรือเธออยากเห็นน้ำตาจากคนที่รักเธอ
ตั้งแต่วันนั้น จอร์นดูเปลี่ยนไป เขากลายเป็นคนอารมณ์ร้อนขึ้น หงุดหงิดง่ายขึ้น และขยันหาเรื่องคนอื่นไปเสียหมด แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ทำให้ฉันได้เห็นชัดเจนมากขึ้นว่า เขาสนใจเจสซี่มากกว่าฉัน เขาดูแลเอาใจใส่เธอ เคยพาเธอไปไหนมาไหน ไปเจออะไรก็ซื้อฝากเธอก่อนเสมอ ทั้งที่โมเม้นต์นั้นมันเคยเป็นของฉันมาก่อน

ไม่นับรวมสิ่งที่ผิดเพี้ยนมากไปอีกเมื่อเขาพยายามสอบถามฉันว่า ผู้ชายที่ฉันชอบเป็นใคร รวมถึงพยายามให้กำลังใจและพูดผลักไสให้ฉันเดินหน้าเข้าหาคนที่ชอบอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่ได้รู้เลยว่าคนๆ นั้น...เขาอยู่ตรงหน้าฉัน และกำลังทำตัวสวีทหวานกับผู้หญิงอีกคนให้ฉันเห็นอยู่ตลอดเวลา


ยังไงเธอก็ไม่รักยังไงเธอก็เลือกเขา จะเอาอะไรแข่งกับเขาเมื่อทำอะไรฉันก็ผิด หยุดหยิบยื่นความรักๆ อย่างคนไม่มีสิทธิ์ อย่ายื้อให้ฉันติดอยู่กับชีวิตเธออีกเลย ปล่อยฉันไปตายไกลๆ
ฉันไม่อยากรู้จักนาย...นั่นคือสิ่งที่ฉันคิด หากย้อนเวลากลับไปได้ ฉันเคยคิดนะว่า ถ้าไม่มีเจสซี่ จอร์นอาจรักฉันบ้างสักวัน แต่เพราะนั่นเป็นเพียงแค่ฝันลมๆ แล้งๆ ความจริงมันอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว ถึงเขาจะบอกให้ฉันฮึดสู้แค่ไหน ฉันก็ทำไม่ได้จริงๆ

เจสซี่เองก็ดูจะรู้ถึงความรู้สึกของฉัน เธอดูไม่ค่อยพอใจกับเรื่องนี้เท่าไร และไปๆ มาๆ เธอจึงถือสิทธิ์ความเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กยึดครองเขาให้อยู่ติดกับเธอตลอดเวลาและพยายามผลักไสให้ฉันออกไปอยู่วงนอก เธอทุ่มเททุกสิ่งอย่างเพื่อให้ฉันกับจอร์นต้องมีปัญหากัน

ฉันจำได้แม่นเลยว่ามีอยู่ครั้งหรือสองครั้งนี่แหละที่เธอแสร้งว่าถูกฉันรังแกจนจอร์นเข้ามาตำหนิและต่อว่าฉันต่อหน้าเธอ...ฉันไม่โกรธเธอเลย ฉันเข้าใจดีว่าอารมณ์หึงหวงมันรุนแรงเพียงใด แต่ฉันโกรธจอร์น...โกรธและผิดหวังอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถึงฉันจะไม่ใช่เพื่อนสมัยเด็ก แต่มันไม่ใช่เหตุผลที่ฉันต้องกลายเป็นคนที่ไม่ถูกเลือกใช่ไหม? เหตุผลเพียงหนึ่งเดียวที่ทำให้เขาไม่เคยเลือกฉันเลยก็คือ...เขารักเธอ มันก็แค่นั้น 


พอทีอย่าทำเป็นเข้าใจ พอทีอย่าเดินมาใกล้ๆ ทำเหมือนว่าไม่คิดอะไร
หลังจากที่เขาหายอารมณ์ร้ายใส่ เขาก็มักจะเข้ามาง้อฉันด้วยอมยิ้มหรือไอศกรีมเสมอ เพราะรู้ดีว่านั่นคือของกินที่ฉันชอบที่สุด แต่มันคงจะดีกว่านี้หากเขาเข้ามาง้อฉันเพียงลำพัง ไม่พาเจสซี่มาด้วย

เจสซี่เธอเก่งมากที่สามารถแสดงท่าทีเหมือนไม่ได้คิดอะไรได้แนบเนียนขนาดนั้น เธอทำให้ฉันเกือบเชื่ออยู่หลายครั้งว่าที่ผ่านมาเธอไม่ตั้งใจทำให้ฉันถูกโมโห...ถ้าเพียงแต่ฉันไม่ได้ไปได้ยินเธอคุยโทรศัพท์กับเพื่อนของเธอถึงเรื่องที่เกิดขึ้นมาเข้าล่ะก็นะ

นอกจากความห่างเหินที่ค่อยๆ ก้าวเท้าเข้ามา ความห่วงใยจากจอร์นก็ค่อยๆ ก้าวเท้าเข้ามาหนักขึ้นไปอีก เขาคิดว่าที่ฉันดูอารมณ์ไม่ดีและพาลหาเรื่องเจสซี่อยู่บ่อยครั้งเป็นเพราะฉันหงุดหงิดกับปัญหาความรักอันแสนน่าเบื่อนั่น ซึ่งฉันอยากบอกเขาใจจะขาดว่า มันไม่ใช่เลย แต่เมื่อคิดอีกที ฉันคิดว่าอย่าไปพูดถึงมันดีกว่า พูดไปฉันก็เจ็บอยู่ดี


พอทีหยุดมองด้วยสายตา พอทีหยุดส่งรอยยิ้มมา รู้ไหมเธอทำฉันหวั่นไหว
คลาสเรียนภาษาญี่ปุ่นกำลังจะจบคอร์ส จอร์นเอ่ยถามฉันว่า ฉันจะลงเรียนคอร์สต่อไปหรือไม่ ฉันจึงย้อนถามเขากลับไปด้วยคำถามเดียวกัน เขาหยุดคิดอยู่สักแป๊บก่อนตอบกลับมาว่า คงไม่ได้ลงเรียนต่อ เพราะเจสซี่ชวนเขาไปลงเรียนภาษาสเปนแทน ซึ่งเขาเองคิดว่ามันน่าสนใจไม่น้อยเลย จากนั้นเขาก็ถามฉันซ้ำอีกรอบว่าฉันจะลงเรียนต่อหรือว่าจะลงเรียนภาษาสเปนกับเขา ฉันหยุดคิดและตอบไปว่ายังไม่รู้เลย นั่นทำให้เขาตื๊อให้ฉันเลือกเรียนวิชาเดียวกับเขาแทน

หลังจากนอนคิดอยู่สองวัน ฉันก็ได้ทำการตอบปฏิเสธจอร์นไป โดยให้เหตุผลว่าอยากศึกษาภาษาญี่ปุ่นให้ลึกขึ้นมากกว่า เขาดูไม่ค่อยพอใจกับคำตอบของฉันตรงข้ามกับเจสซี่ที่ดูจะดีใจเสียเหลือเกิน ใช่สิ ต่อไปจะไม่มีใครมาคอยเกะกะเธอแล้วนิ

วันเวลาผ่านไปจนเหลืออีกแค่ไม่กี่วันจะจบคอร์ส จอร์นชวนฉันไปเที่ยวเล่นที่บ้านของเขา นั่นเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่ฉันได้ไปที่นั่น และมันคงเป็นครั้งสุดท้ายด้วย เพราะหลังจากที่เราแยกย้ายกันไป ฉันกับเขาคงไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันอีก พอคิดแบบนั้นฉันเลยตอบตกลงไปเที่ยวบ้านเขา เขายิ้มด้วยความดีใจหลังได้ยินคำตอบนั้น ให้ตาย...อย่ายิ้มแบบนี้กับฉันบ่อยนักเลย มันทำให้ฉันยิ่งหวั่นไหวมากขึ้นนะรู้ไหม 


เธอมาทำให้ใจอ่อนแอ หลอกฉันให้สู้ทั้งที่ต้องแพ้เขาอยู่ดี
ใจฉันแทบสลายเมื่อได้รู้ว่า เจสซี่ย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังนั้นด้วยสักพักใหญ่แล้ว จอร์นบอกกับฉันว่าแม่ของเขาชวนเจสซี่ให้มาอยู่ด้วยกันเพื่อที่เธฮจะได้ไม่ต้องเสียค่าเช่าห้องให้มันสิ้นเปลือง ตอนแรกเจสซี่ปฏิเสธความหวังดีนั่น แต่เพราะแม่ของเขาเอ่ยปากชวนอยู่หลายรอบ ทำให้เธอใจอ่อน ยอมมาขออาศัยด้วย นั่นคือเหตุผลที่จอร์นกล่าวอ้าง แต่ในใจฉันน่ะ ไม่เชื่อหรอกว่าเธอจะไม่อยากมา

และเพราะในวันนี้มีเธออยู่ด้วยนี่แหละ ทำให้ฉันหมดสนุกไปเลย แบบนี้มันจะต่างอะไรจากการเจอกันในคลาสตามปกติล่ะ? ฉันได้แต่คิดแล้วนึกน้อยใจ แต่ไม่รู้ทำไม ในวันนี้จอร์นหันกลับมาดูแลเอาใจใส่ฉันดีเหมือนตอนที่ยังไม่มีเจสซี่เข้ามาเลย นับว่าเป็นเรื่องที่แปลกมาก เหมือนสถานะของฉันกับเจสซี่เราสลับกันยังไงยังงั้นแหละ

ก่อนที่ฉันจะได้รู้ว่าทั้งหมดเป็นแผนการของเจสซี่ จอร์นเล่าเรื่องปัญหาหัวใจของฉันให้เธอฟัง และเธอก็วางแผนให้เขาชวนฉันมาที่นี่เพื่อให้กำลังใจ...ทั้งเธอและจอร์นต่างอกให้ฉันสู้ต่อไป สู้กับเธออย่างนั้นหรือเจสซี่? สู้ทำไม สู้ไปเพื่ออะไร ในเมื่อสุดท้ายผู้ชนะก็คือเธอ...


ยังไงเธอก็ไม่รักยังไงเธอก็ไม่สน และมันไม่มีเหตุผลเมื่อเขานั้นก็ดีกว่า ได้โปรดอย่าให้ความหวัง ถ้าเธอยังเห็นคุณค่า หรือเธออยากเห็นน้ำตาจากคนที่รักเธอ
การเที่ยวบ้านจอร์นในวันนั้นเราได้มีการจัดปาร์ตี้เล็กๆ ขึ้น พวกเราดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปพอสมควรจนเริ่มรู้สึกกรึ่มๆ เราพูดคุยกันเรื่องต่างๆ มากมายและจอร์นมักส่งยิ้มพร้อมสายตาหวานเชื่อมของเขามาให้ฉันอยู่ตลอด นั่นทำให้ฉันเกือบหลอกตัวเองอีกครั้งว่าเขาอาจชอบฉันอยู่บ้าง   

ก่อนที่ฉันจะตาสว่างเมื่อเดินกลับมาจากห้องน้ำและเห็นเขากับเจสซี่กำลังจูบกันอย่างดูดดื่ม!! ฉันรีบหันหลังและเดินกลับไปที่ห้องน้ำทันที ความรู้สึกมวนๆ ที่ท้องก็กระตุ้นให้ฉันขย้อนเอาของที่กินเข้าไปออกจากกระเพาะจนหมด ฉันนั่งร้องไห้อยู่ในนั้นนานนับชั่วโมง ก่อนเดินออกมาอีกครั้งเพื่อกลับไปที่ห้องนั้น...ตอนนี้จอร์นกับเจสซี่เมากันมากจนหลับไป ฉันไม่อยากทนเห็นอะไรอีกแล้วจึงได้เดินไปบอกลาคุณแม่ของจอร์นและกลับบ้านตามลำพังด้วยใจที่แหลกสลายไม่มีชิ้นดี...


ยังไงเธอก็ไม่รักยังไงเธอก็เลือกเขา จะเอาอะไรแข่งกับเขาเมื่อทำอะไรฉันก็ผิด หยุดหยิบยื่นความรักๆ อย่างคนไม่มีสิทธิ์ อย่ายื้อให้ฉันติดอยู่กับชีวิตเธออีกเลย ปล่อยฉันไปตายไกลๆ
เจสซี่เรียกฉันออกไปสารภาพที่สวนหย่อมใกล้ห้องเรียนในวันสุดท้ายของการเรียนว่า เธอชอบจอร์นมาตั้งแต่เด็กแล้ว ตอนแรกเธอเข้าใจว่าฉันเองก็ชอบจอร์น เธอจึงไม่พอใจและรู้สึกหึงจนทำตัวร้ายกาจกับฉันไปมาก แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าฉันชอบคนอื่นอยู่ เธอจึงรู้สึกผิดและอยากมาขอโทษ

ฉันบอกกับเธอไปว่า เธอไม่ต้องรู้สึกผิดหรือขอโทษอะไร เพราะสิ่งที่เธอเข้าใจมันถูกแต่ต้น ฉันชอบจอร์น และฉันก็รู้ดีว่าจอร์นไม่เคยชอบฉัน ฉันจึงไม่รั้นที่จะดึงดันแย่งเขามาจากเธอ...เพราะยังไงสุดท้ายคนที่จอร์นเลือกก็ไม่ใช่ฉันอยู่ดี... 

ทันใดนั้นจอร์นก็โผล่ออกจากหลังต้นไม้ใหญ่...เขาได้ยินทุกเรื่องราว และเขากำลังมีสีหน้าที่ลำบากใจอย่างที่สุด ฉันอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมาทั้งน้ำตาพร้อมมองหน้าของเขา

จอร์นจ้องมองฉันกลับด้วยสายตาที่ยากจะบรรยาย เขาพร่ำบอกคำว่าขอโทษอยู่ตลอดเวลา เขาพูดว่า ไม่เคยคิดเลยว่าฉันจะชอบเขา เขาไม่เคยคิดว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นตัวเอง ถึงได้คอยพูดให้สู้อยู่ตลอด เขาเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา พร้อมเอ่ยปากถามฉันด้วยน้ำเสียงเว้าวอนว่า เรายังสามารถเป็นเพื่อนกันได้อยู่ไหม และเขายังดูแลฉันได้ดังเดิมหรือไม่?

ได้ยินดังนั้น ฉันจึงตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้ๆ ตบบ่าเขาเบาๆ และกระซิบข้างหูเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเดินจากออกมาว่า

ได้โปรด ปล่อยฉันให้ไปไกลๆ...


ยังไงก็ไม่ยัก
ศิลปิน : เก่ง ธชย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น